top of page
iStock-508489510.jpg
chinese-medicine-3666183_1280.jpg

อายุรกรรม

HipKneeAnklePain.jpg

แผนกกระดูกและข้อ

ovarian-cancer1.jpg

แผนกสูตินารีเวช

20180403143325.jpg

โรคผิวหนังและความงาม

dailynews20111220_002-2_edited.jpg

นวดทุยหนา

yong-chang-tang-58-25.JPG

เภสัชกรรม สมุนไพรจีน

iStock-508489510.jpg

ศาสตร์การแพทย์แผนจีนเป็นศาสตร์แพทย์ทางเลือกของผู้ป่วย

ที่สามารถช่วยป้องกัน รักษา และฟื้นฟูโรคที่เป็นเรื้อรังได้ผลดีมาก หรือใช้รักษาควบคู่ไปกับการรักษาด้วยแพทย์แผนปัจจุบัน เพื่อให้ผลการรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ องค์การอนามัยโลก WHO ได้ให้การยอมรับการรักษาด้วยแพทย์แผนจีน ปัจจุบันมีงานวิจัยต่างๆมากมายเกี่ยวกับการรักษาและการใช้ยาสมุนไพรในการรักษา รวมถึงมีหลักสูตร แพทย์จีนมหาบัณฑิตจำนวนมากขึ้น บรรจุเป็นอีกหนึ่งหลักสูตร องค์การอณามัยโลก WHO ได้ให้การยอมรับว่า การฝังเข็มรักษาโรคได้ผลดีเยี่ยม ตามงานวิจัยต่างๆมากมาย โดยแยกออกเป็นกลุ่มการรักษาได้ผลดีมาก เช่น กลุ่มอาการปวดต่างๆ ปวดไมเกรน ปวดกร้ามเนื้อคอ บ่า ไหล่ ( Office Syndrom) ปวดหลังเนื่องจากกระดูกทับเส้น ไหล่ติด ปวดข้อมือ ปวดหัวเข่า เส้นเอ็นข้อพลิก เหล่านี้จะได้ผลดีมากหลังจากที่ได้รับการฝังเข็ม


วิธีการรักษาแบบแพทย์แผนจีนที่หลายคนคุ้นเคย คือการฝังเข็ม ครอบแก้ว รมยา นวด จัดกระดูก และการทานยาสมุนไพรจีน ซึ่งช่วยรักษาอาการปวดต่าง ๆ  อย่างได้ผลดี และหลายคนก็เกิดข้อสงสัยว่าการฝังเข็มที่ไม่ได้มีตัวยาอยู่ในเข็มนั้นจะสามารถรักษาอาการป่วยได้อย่างไร พจ.ฉัตรชัย จึงได้อธิบายถึงหลักการรักษาให้เข้าใจ
 

“หลักของตรรกวิทยาแพทย์จีนได้ล่าวไว้ว่า ร่างกายมนุษย์ประกอบจากสิ่ง 365 สิ่ง (เท่ากับ 365 วัน) มีเส้นลมปราณ 12 เส้น (เท่ากับ 12 เดือน)มีเส้นเลือดใหญ่ 4 เส้น (เท่ากับ 4 ฤดูกาล) ดังนั้นการแพทย์แผนจีนจึงเป็นการรักษาแบบองค์รวมโดยอิงหลักการธรรมชาติเข้ามาเป็นบรรทัดฐาน

การรักษาด้วยศาสตร์แพทย์แผนจีน ?

การฝังเข็ม ป็นการปักเข็มลงไปใต้ผิวหนังเพื่อกระตุ้นเส้นลมปราณที่มีอยู่ทั่วร่างกาย โดยเข็มจะเข้าไปกระตุ้นให้หลอดเลือดบริวณนั้นขยายตัวและยังมีผลต่ออวัยวะอื่นๆที่อยู่ไกลออกไปด้วย ซึ่งจะมีผลต่อร่างกายที่ช่วยระงับอาการเจ็บปวดและลดการอักเสบทำให้อาการปวดลดลง หากจะอธิบายในด้านการรักษาแบบแพทย์แผนตะวันตก คือ กล้ามเนื้อบริเวณที่บาดเจ็บเกิดการหดเกร็งทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวกจึงเกิดเลือดคั่ง การฝังเข็มช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัวและทำให้หลอดเลือดบริเวณนั้นขยายตัว การหดเกร็งและการบาดเจ็บจึงลดลง การฝังเข็มยังสามารถกระตุ้นสมองให้มีการหลั่งสารสื่อประสาทในร่างกายออกมาหลายชนิดที่สำคัญคือ เอ็นโดรฟิน สารตัวนี้มีฤทธิ์ระงับปวดที่แรงมากเมื่อเทียบกับฤทธิ์ของมอร์ฟีนเพราะเป็นสารที่ร่างกายเราหลั่งออกมาเองจึงไม่มีโทษต่อร่างกาย การฝังเข็มจึงมีฤทธิ์ในการลดความเจ็บปวดและปรับสมดุลให้กับร่างกายสู่สภาวะปกติได้"

คลินิกฝังเข็มและแพทย์แผนจีน เชียงใหม่
Acupuncture Clinic in Chiangmai

การครอบแก้ว คือ การใช้ความร้อนขับไล่อากาศภายในถ้วยแก้วออกจนเกิดสูญญกาศขึ้นและวางบริเวณจุดเส้นลมปราณบนร่างกาย เพื่อให้เลือดลมเดินสะดวก ลดอาการปวดเมื่อย กำจัดความชื้น สารพิษที่ตกค้างในร่างกายและยังช่วยป้องกัน ส่งเสริมสุขภาพให้แข็งแรง

การรมยา คือวิธีการรักษาโรคโดยเผาโกฐจุฬาจีนรมผิวหนังเพื่อกระตุ้นประสาท เป็นการรักษากลุ่มอาการที่เกิดจากความชื้น ความเย็น โดยใช้เข็มเป็นสื่อกลางในการนำพาความอบอุ่นเข้าสู่เส้นลมปราณ เมื่อเส้นลมปราณอุ่นก็จะทำให้ความชื้นและความเย็นสลายไป

Acupuncture Clinic in Chiangmai
Chinese Medicine and Acupuncture Clinic in Chiangmai

ทุยหนา หรือการนวดแบบจีน  คือศาสตร์การนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อและจัดกระดูกให้เข้าที่หรือเป็นปกติด้วยมือ ซึ่งจะต้องมีการตรวจวินิจฉัยว่าเกิดจากสาเหตุอะไรจึงจะเริ่มรักษาตามอาการที่เกิดขึ้น โดยการนวดผ่อนคลาย กดจุด และจัดกระดูก ใช้เวลารักษาประมาณ 15-30 นาที

กัวซา เป็นการขูดไปตามเส้นลมปราณเพื่อช่วยให้เลือดลมไหลเวียนสะดวกขึ้นและยังระบายสารพิษทางผิวหนัง ขจัดความร้อนส่วนเกิน ลดอาการตึงและปวดกล้ามเนื้อด้วย "หลักการเดียวกันคือการขยายหลอดเลือด ลดอาการปวด

Chinese Medicine and Acupuncture Clinic in Chiangmai
traditional-chinese-medicine-ancient-medical-book-white-desk.jpg

แต่ประสิทธิภาพของการรักษาในแต่ละวิธีก็จะแตกต่างกัน จึงต้องให้แพทย์เป็นผู้วินิจฉัยว่าจะใช้วิธีการรักษาแบบไหนจึงจะเห็นผลชัดเจน บางคนอาจจะต้องใช้ทุกวิธี เช่น ผู้ที่เป็นออฟฟิศชินโดรมจะต้องใช้ทั้งการฝังเข็ม ครอบแก้ว การนวดทุยหนา และการจัดกระดูก หัวใจสำคัญของแพทย์แผนจีนคือ การรักษาแบบองค์รวมที่มีหลักการตรวจวินิจฉัยคือ ถาม ดู ฟังและคลำ(แมะ) สำคัญที่สุด โดยแพทย์จะเริ่มตั้งแต่การถาม ดู ฟัง และตรวจแมะหรือจับชีพจร เพื่อให้ทราบถึงความผิดปกติของอวัยวะภายใน เพราะแต่ละตำแหน่งจะหมายถึงอวัยวะภายในที่สำคัญ เช่นหัวใจและเยื่อหุ้มหัวใจ ตับและถุงน้ำดี ไตและกระเพาะปัสสาวะ ปอดและลำไส้ใหญ่ ม้ามและกระเพาะอาหาร และระบบสืบพันธุ์ เมื่อจับแล้วจะรู้ว่าตรงไหนเริ่มเกิดความผิดปกติ"นอกจากนี้ในบางครั้งอาจมีการใช้ สมุนไพรจีนควบคู่
 

ไปกับการรักษาเพื่อประสิทธิผลที่ดียิ่งขึ้น เป็นการรักษาจากภายในสู่ภายนอก เพราะในบางครั้งการฝังเข็มเพียงอย่างเดียวอาจจะไม่รักษาอาการได้อย่างสมบูรณ์"ใครที่สังเกตตัวเองว่ามีความผิดปกติตรงไหนแล้วหาคำตอบไม่ได้ก็ลองเข้ามาปรึกษาดูก่อนก็ได้ว่าอาการที่เราเป็นมันเกิดจากอะไรหรือกลุ่มผู้รักษาสุขภาพก็สามารถรับการตรวจได้หากอยากจะรู้ว่าร่างกายเราเสียสมดุลตรงไหนบ้าง เพื่อจะได้ช่วยฟื้นฟูให้ร่างกายแข็งแรงยิ่งขึ้น"

bottom of page